เกร็ดความรู้ก่อนเริ่ม Quantum GIS หรือ QGIS เป็นโปรแกรม Desktop GIS ประเภทหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการนำมาใช้จัดการข้อมูลปริภูมิจัดอยู่ในกลุ่มซอฟต์แวร์รหัสเปิด (Free and Open Source Software: FOSS) ที่ใช้ งานง่าย ลักษณะการใช้งานเป็นแบบ Graphic User Interface ซึ่งสะดวกต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเรียกใช้ข้อมูลภาพ ข้อมูลตาราง การแสดงผลตาราง การแสดงผลกราฟ ตลอดจนสามารถสืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอข้อมูลได้ในรูปแบบแผนที่ที่สวยงาม
จากตอนที่ 1 เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับหน้าที่ความสามารถของปลั๊กอินของซอฟต์แวร์เบื้องต้นกันแล้ว ในตอนที่ 2 นี้ เราจะลงลึกรายละเอียดของปลั๊กอินกันต่อไป
ปลั๊กอินการจัดหมวดหมู่กึ่งอัตโนมัติ
คุณเคยต้องการทำการจัดหมวดหมู่ภาพจากระยะไกลบ้างไหม?
ปลั๊กอินการจัดหมวดหมู่กึ่งอัตโนมัติคือปลั๊กอินของ QGIS ที่ออกแบบมาเพื่อประมวลผลและจัดหมวดหมู่ภาพของการสำรวจข้อมูลจากระยะไกลโดยใช้เครื่องกวาดภาพช่วงคลื่นละเอียดสูง ลักษณะละเอียดที่ว่าคือมันสามารถดึงสัญญาณข้อมูลจากห้องสมุด USGS เชิง Spectral ออกมาได้ ซึ่งเป็นชุดวัดการสะท้อนคลื่นรังสีของวัตถุนับร้อย ๆ ชนิดในห้องทดลอง
ปลั๊กอิน QGIS อื่น ๆ
ทำหน้าที่ต่าง ๆ เหมือน CAD ใน QGIS
แสดงภาพทิวทัศน์และลักษณะ QGIS พร้อมกับลักษณะต่าง ๆ ใน Google Earth
แผนผังเส้นภาพเค้าโครงจากความสูง raster layers
อนุญาตให้ผู้ใช้ค้นหาที่อยู่และได้รับพิกัด
และอื่น ๆ อีกมากมาย
ขั้นพื้นฐาน: เพิ่ม สร้างและแก้ไข Vector Layers
การสร้างฐานข้อมูล การจัดการและการปรับปรุงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ GIS ซอฟต์แวร์ QGIS นี้เผยให้คุณเห็นว่าจะจัดการกับแถบชั้นเครื่องมือได้อย่างไร แถบเครื่องมืออนุญาตให้คุณเพิ่ม vector หรือ raster หรือเลเยอร์แบบอื่น ๆ คุณยังสามารถแก้ไขและสร้างชั้น vector ใน รูปแบบ Esri shapefile หรือ SpatialLite ได้
สิ่งที่คุณต้องทำทั้งหมดเพื่อสร้าง shapefile ใหม่ก็คือ เลือกเครื่องมือ Shapefile ใหม่ ในแถบเครื่องมือจัดการเลเยอร์ จากตรงนี้คุณสามารถเลือกรูปทรงคุณลักษณะในจุด เส้น หรือรูปทรงหลายเหลี่ยม คุณสามารถเลือกการเข้ารหัสและร่วมกับระบบอ้างอิงได้อีกด้วย
อย่างหนึ่งที่แตกต่างไปจากชุดที่นอกจาก ArcMap ก็คือคุณใส่คุณลักษณะตรงขั้นตอนนี้ ฐานข้อมูลคุณลักษณะคือข้อมูลเกี่ยวกับฐานข้อมูลที่เป็นเนื้อหาของคุณ จำนวนหรือรูปแบบวันที่ คุณให้คุณลักษณะ shapefile เป็นชื่อ ชนิด (เนื้อหา ข้อมูลทั้งหมด ทศนิยม และวันที่) ความกว้างและความแม่นยำ คุณสามารถเพิ่มคุณลักษณะเข้าไปได้เรื่อย ๆ ด้วยการกดปุ่ม เพิ่มรายการคุณลักษณะ
เมื่อคุณคลิก OK คุณจะถูกถามว่า shapefile ใหม่จะให้อยู่ตรงไหนและตั้งชื่อว่าอะไร หลังจาก shapefile ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว มันจะถูกเพิ่มเข้าไปที่รายชื่อแถบชั้นเครื่องมือทางซ้ายของหน้าจอ
หากต้องการแก้ไขแถบชั้นเครื่องมือให้ทำการเน้นข้อความที่รายการแถบชั้นเครื่องมือและคลิกเครื่องมือแก้ไขในแถบเครื่องมือตัวแก้ไข ซึ่งจะทำให้แก้ไขเครื่องมือได้
คุณเพิ่มปุ่มใหม่ให้กับเรขาคณิตด้วยการคลิกในเครื่องมือช่วยค้นแผนที่ เมื่อทำเสร็จแล้วก็แค่คลิกขวาใน เครื่องมือช่วยค้นแผนที่ ตรงนี้ คุณสามารถเติมคุณลักษณะและบันทึกรูปทรงเรขาคณิตและคุณลักษณะได้โดยคลิกปุ่มบันทึกแถบชั้นเครืองมือ
ปรับปรุงสัญลักษณ์และป้ายกำกับด้วยคุณสมบัติเครื่องมือเลเยอร์
คุณสามารถเปลี่ยนรูปแบบ ป้ายกำกับ การเชื่อมต่อและแม้กระทั่ง สารลักษณ์ในฐานข้อมูลของคุณได้คุณสมบัติเครื่องมือเลเยอร์ คุณสามารถเข้าถึงคุณสมบัติเครื่องมือเลเยอร์ทั้งสองแบบด้วยการคลิกสองครั้งที่แถบชั้นเครื่องมือหรือโดยคลิกขวาที่แถบชั้นเครื่องมือและเลือกคุณลักษณะ (Properties)
ทางด้านซ้ายจะมีแถบเครื่องมือสำหรับเปลี่ยนสัญลักษณ์ กำหนดป้ายกำกับ แก้ไขตารางการเชื่อมต่อและอื่น ๆ
ในคุณสมบัติเครื่องมือเลเยอร์ คุณยังสามารถสร้างจุด เส้น และสัญลักษณ์รูปหลายเหลี่ยมด้วยการเพิ่มหลายอย่างเขาด้วยกัน คุณยังสามารถปรับปรุงลักษณะโปร่งแสงในแผนที่ได้ด้วย
ในแถบป้ายกำกับ คุณสามารถตัดสินใจเองว่าจะใช้ป้ายกำกับอันไหน คุณสามารถปิดป้ายกำกับใน QGIS ได้อย่างแม่นยำ จึงไม่เหมือนกับซอฟต์แวร์ GIS ชนิดอื่น ๆ คุณสามารถแต่งรูปแบบป้ายกำกับด้วยรัศมีวงกลม ภาพโปร่งใส แสงเงา และเซฟเก็บไว้ในไฟล์ที่ออกแบบไว้สำหรับใช้ในครั้งต่อไป นี่เป็นคุณลักษณะระดับสูง (คล้ายกับโปรแกรม Adobe Photoshop) สำหรับสร้างข้อมูลแผนที่ที่ส่งออกมา
แปลงรูปภาพ ไฟล์ PDFs และ SVGs ในโปรแกรมสั่งพิมพ์ QGIS
ในหน้าจอการจัดวางองค์ประกอบ คุณสามารถตั้งค่าหน้ากระดาษ กำหนดตำแหน่ง หน่วย และสีพื้นหลังได้ ใช้ โปรแกรมสั่งพิมพ์เพื่อเตรียมพิมพ์แผนที่ การที่จะเพิ่มโปรแกรมสั่งพิมพ์ไปใน QGIS ให้คลิกที่โปรเจค > สั่งพิมพ์ใหม่ ตั้งชื่องานใหม่ที่พิมพ์
เพิ่มแผนที่ของคุณไปในโปรแกรมสั่งพิมพ์ เลือกเครื่องมือเพิ่มแผนที่ (Add Map) และลากพื้นที่ไปในเครื่องมือช่วยค้นแผนที่
ในแถบเครื่องมือคุณสมบัติ (Item Properties) คุณสามารถจัดมาตราส่วนแผนที่ ส่วนขยายและแม้กระทั่งการหมุนแผนที่
ในช่องย้ายรายการ “Move Item” สามารถย้ายและย่อส่วนหน้าต่างแผนที่ได้ เครื่องมือย้ายเนื้อหา “Move Content” หรืออีกนัยหนึ่ง สามารถย้ายเรขาคณิตภายในมุมมองแผนที่ได้
แถบเมนูเค้าโครงมีตัวเลือกในการเพิ่มป้ายกำกับ คำบรรยายใต้ภาพ แถบมาตรส่วน ลูกศรเหนือ ทุกรายการสามารถปรับได้ในแถบเครื่องมือคุณสมบัติ หากคุณเปลี่ยนแปลงบางอย่างในแผนที่ คุณจะต้องสร้างมุมมองใหม่ในโปรแกรมสั่งพิมพ์ การสร้างแผนที่ใหม่ในโปรแกรมสั่งพิมพ์ ให้คลิกที่ปรับปรุงหน้าตัวอย่าง “Update Preview” ใต้แถบเครื่องมือรายการคุณสมบัติ (Item Properties)
ขั้นตอนสุดท้าย การนำแผนที่เป็นไฟล์ PDF ออกมาจาก QGIS ให้คลิก Composer > Export as PDF หากคุณต้องการนำแผนที่ออกมากเป็นไฟล์ SVG ให้ใช้ทางเลือกเพื่อส่งแผนที่เข้ามาในโปรแกรม Adobe Illustrator และทำการปรับปรุงต่อไป คุณสามารถส่งแผนที่ออกไปในรูปแบบไฟล์อื่น ๆ ได้อีกมากมายเช่น JPG, PNG และ TIF
ที่มาบทความ : บทความโดยเว็บไซต์ GISGeography บันทึก : เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
สืบค้นจาก : http://gisgeography.com/open-source-qgis-review-guide/