27 ข้อแตกต่างระหว่าง ArcGIS และ QGIS การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของซอฟท์แวร์ GIS ในประวัติศาสตร์ GIS ตอนที่ 5

ArcGISvsQGIS-678x32-4

เรามาดูกันต่อข้อที่ 14-17 ในตอนที่ 5 นี้


14.การออกแบบแผนที่ชิ้นเอกใน ArcGIS และ QGIS

บางคนคิดว่าการเขียนแผนที่ให้สวยทำได้แค่ใน ArcGIS เท่านั้น แต่ QGIS ก็เป็นอีกทางเลือกในการเขียนแผนที่ หน้าต่างการสร้างแผนที่ของ QGIS เรียกว่า ‘print composer’ ซึ่งทำงานเหมือนเป็นแอพพลิเคชั่นแยกออกมาต่างหาก แต่เมื่อคุณใส่สัญลักษณ์และชื่อต่าง ๆในแผนที่ คุณจะรู้ทันทีว่า QGIS คือความฝันของคนทำแผนที่

Print-Composer1

ArcGIS layout view คือวิธีการสร้างแบบและส่งออกงานแผนที่ที่สำเร็จแล้ว  ArcGIS สามารถใช้งานได้จริงและเป็นผู้เชี่ยวชาญในสกุลต่าง ๆ เช่น PDF,JPB,SVG,AI,PNG,EPS และ EMF  ArcGIS มีเครื่องมือในการใส่ชื่อต่าง ๆ สร้างแผนที่และเชื่อมต่อกรอบข้อมูล

ความจริงแล้วเราชอบทั้ง QGIS และ ArcGIS ในความครอบคลุมของการทำแผนที่


15.การสร้างสัญลักษณ์ที่จะทำให้โลก QGIS สั่นคลอน

ArcGIS เต็มไปด้วยเครื่องมือสร้างสัญลักษณ์มากมาย เช่น (การขนส่ง อสังหาฯ ดิน อากาศ เป็นต้น) ซึ่งดีมากสำหรับจุด เส้นและรูปทรงต่าง ๆ สัญลักษณ์ต่าง ๆใน ArcMap นั้นสวย ใช้งานได้ดีและมีให้เลือกมากมาย

QGIS-SymbologyQGIS นั้นพลาดตรงตัวเลือกที่มีนั้นจะดีกว่านี้ ถ้า QGIS มีสัญลักษณ์ เช่น ทางรถไฟ และ รูปทรงไข่มาตั้งแต่ต้น แต่ซึ่งจริง ๆ แล้วคุณสามารถโหลดมาเพิ่มได้

เมื่อ QGIS เปิดตัวที่มีการเพิ่มตัวเลือกเหมือนเป็น Adobe Photoshop ซึ่งมีการผสมตัวเลือก เช่น lighten, screen, dodge, addition, darken, multiply, burn, overlay, soft light, hard light และ difference เป็นต้น

symbology-optionsการไล่สีทำให้คนทำแผนที่สนุกมากขี้น คุณสามารถเพิ่มการไล่สีตั้งแต่สองสีขึ้นไป โดยสามารถกำหนดการไล่สีได้หลายแบบเช่น เส้นตรง เป็นวง หรือทรงกรวย ซึ่งบันทึกรูปแบบเลเยอร์เป็นไฟล์ (*.QML)

การเติมสีในบริเวณน้ำแข็งใช้การทำงานดูดสี ซึ่งทำให้การเลือกสีง่ายมาก คุณไม่ต้องคอยเขียนโค้ด RGB อีกต่อไป QGIS มีตัวเลือกลักษณ์ขั้นสูง ซึ่งใช้ได้จริงและกลายเป็นผู้ชนะในเรื่องนี้ไป

Color-Picker-2-300x127


16. การออกแบบป้ายกำกับแบบที่มีลักษณะพิเศษและบรรณนิทัศน์(คำอธิบายประกอบ)ใน QGIS

ป้ายกำกับเป็นอะไรที่เยี่ยมยอดใน QGIS ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด

  • ที่พักข้อมูลเนื้อหาเรื่องแสง
  • เพิ่มเงาให้จุดในรูปแบบต่าง ๆ
  • ตั้งค่าความโปร่งใส รูปแบบผสมและกลวิธีการชดเชย

QGIS-Drop-Shadowsความแตกต่างที่บอบบางเหล่านี้ทำให้ป้ายกำกับของคุณมีปัญหา

ในขณะที่ ArcGIS ขาดป้ายกำกับอันสวยงามบางอย่างของ QGIS คุณจะได้รับตัดต่อเพื่อวางป้ายกำกับพร้อมกับเครื่องประมวลผลป้ายกำกับ ArcGIS จะได้ควบคุมการวางลักษณะป้ายกำกับตามต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งจัดตำแหน่งป้ายกำกับและขนาดได้ ป้ายกำกับลักษณะโค้งและคู่ขนานก็ยังสามารถทำได้ง่าย

ArcGIS แถบเครื่องมือวาดควบคุมส่วนอธิบายประกอบอย่างไร มันใช้งานยาก สร้างแถบเครื่องมือแยกออกมาเพื่ออธิบายประกอบ แต่แค่เพียงฝึกฝนเล็กน้อยคุณก็สามารถควบคุมกลุ่มป้ายกำกับการอธิบายประกอบของมันได้

ข้างบนนี้เป็นป้ายกำกับที่สวยงาม แต่คุณสมบัติการวางตำแหน่งและความช่วยเหลือบรรณนิทัศน์ใน ArcGIS

Placement-Properties

อ่านเพิ่มเติม: 33 Map Elements to Include in Cartographic Design: A ‘How to’ Guide to Map Making

 


17.กลายมาเป็นแผนที่อัตโนมัติในส่วนหลังด้วย Data Driven Pages

หากคุณอยู่ในธุรกิจการสร้างแผนที่ คุณควรใช้ data driven pages in ArcGIS มันเป็นคลังอาวุธที่เปี่ยมประสิทธิภาพสำหรับการผลิตแผนที่อัตโนมัติ

ชั้นดัชนีถูกใช้สร้างหน้าเว็บแต่ละหน้า แถบเครื่องมือ Data Driven Pages และกล่องเครื่องมือนักเขียนแผนที่ (Cartographer) เป็นการผสมผสานกันสำหรับสร้างหนังสือแผนที่

Data-Driven-Pages

กล่องเครื่องมือ Cartographer สร้างแถบแผนที่ได้อย่างไร หากแผนที่ของคุณขยายการออกแบบมากขึ้น ให้ใช้เครื่องมือ Calculate UTM zone นอกจากนี้ ชุดคำสั่งของ QGIS มีความสามารถสร้าง Atlas” built-in และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Atlas-Toolbar

การใช้เครื่องมือ Atlas Generation เลือกชั้นที่ครอบคลุมของคุณซึ่งบรรจุรูปทรงเรขาคณิตและเขตข้อมูล สำหรับรูปทรงเรขาคณิตแต่ละรูปในชั้นครอบคลุม ผลลัพธ์ใหม่ที่ได้ก็จะถูกสร้างขึ้น เขตข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรูปทรงเรขาคณิตนี้สามารถนำไปใช้ภายในป้ายกำกับข้อความ เว็บเพ็จหน้าหนึ่งจะถูกสร้างขึ้นมาในแต่ละลักษณะเค้าโครงหน้า ทั้งนี้ Atlas ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ QGIS atlas และ ฐานข้อมูล ArcGIS ทำหน้าที่ขับเคลื่อนปริมาณหน้าเพ็จ

 

ที่มาบทความ : บทความโดยเว็บไซต์ GisGeography บันทึก : เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560
สืบค้นจาก : http://gisgeography.com/qgis-arcgis-differences/

Copyright © 2018 LEARN : อาณาจักรภูมิสารสนเทศ อาณาเขตแห่งการเรียนรู้

LEARN