ดาวเทียมสำรวจความชื้นของดินในช่วงที่เกิดพายุเฮอร์ริเคน Harvey

ดาวเทียมสำรวจความชื้นของดินในช่วงที่เกิดพายุเฮอร์ริเคน Harvey

ตั้งแต่เกิดเฮอร์ริเคน Harvey เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ปริมาณน้ำฝนลดลงมากเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะรอบ เมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส เมื่อวานพวกเขาเผยการคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนโดยอ้างอิงข้อมูลจากดาวเทียม ในขณะที่ภาพของวันนี้แสดงถึงผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน

ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 19-27 สิงหาคม .. 2560

แผนที่ด้านบนแสดงถึงสภาพของดินโดยรอบทางตอนใต้ของรัฐเท็กซัสในวันที่ 27 สิงหาคม เปรียบเทียบกับวันที่ 19 สิงหาคม สีต่าง บนแผนที่แสดงถึงปริมาณความชื้นของดิน โดยสีที่เข้มที่สุดแทนดินที่ใกล้อิ่มตัวหรืออิ่มตัวแล้ว และขนาดของหกเหลี่ยมแสดงถึงระดับการเปลี่ยนแปลงความชื้นของดินตั้งแต่วันก่อนเกิดเฮอร์ริเคน Harvey จนถึงช่วงกลางของเหตุการณ์พายุเฮอร์ริเคนนี้ซึ่งถือเป็นวันที่สามารถเก็บข้อมูลได้ล่าสุด สำหรับโดยรอบเมืองฮิวส์ตัน แสดงข้อมูลเพียงบางส่วน เนื่องจากพื้นผิวของพื้นที่แถวนั้น น้ำไม่สามารถผ่านได้ เช่น ถนน ตึก และโครงสร้างพื้นฐาน

อุตุนิยมวิทยาและรายงานการติดตามภัยแล้งก่อนที่จะเกิดพายุเฮอร์ริเคนแสดงถึงความแห้งแล้งที่ผิดปกติที่ทุเลาลงในพื้นที่ตอนเหนือและตะวันตกของเมืองฮิวส์ตัน รวมถึงใกล้เมือง Chorpus Christi ด้วย ในขณะที่พื้นที่ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองฮิวส์ตัน ค่อนข้างมีฝนมาก นักอุตุนิยมวิทยาจาก Southeast Regional Climate Center  บันทึกไว้ในวันที่ 23 สิงหาคมซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะเกิดพายุเฮอร์ริเคน Harvey ว่า รัฐเท็กซัส หลุยเซียร์นา และรัฐอื่น ทางตอนใต้กำลังจะเกิดฝนตกหนักมากที่สุดเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน

ข้อมูลที่ใช้ในแผนที่ด้านบนมาจากดาวเทียม Soil Moisture Active Passive (SMAP) ซึ่งใช้เครื่องวัดพลังงานรังสีในการวัดความชื้นของดินในระยะความลึก 5 เซนติเมตรจากพื้นดิน มีความละเอียดประมาณ 9 กิโลมิเตอร์ต่อพิกเซล คุณสามารถเห็นข้อมูลภาพที่ได้จาก SMAP เปรียบเทียบก่อนและหลังการเกิดเฮอร์ริเคนตามรูปด้านล่าง

       

วันที่ 21 และ 22 สิงหาคม 2560 และ วันที่ 25 และ 26 สิงหาคม 2560

จากการสำรวจแบบ SMAP พบว่า ก่อนการเกิดพายุเฮอร์ริเคน ระดับความชื้นของดินอยู่ในช่วง 20 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ในบางพื้นที่ และสูงขึ้นเป็น 30 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์หลังจากเกิดพายุเฮอร์ริเคน สภาพความชื้นของดินอาจจะป้องกันปริมาณน้ำฝนจากเฮอร์ริเคน Harvey รวมทั้งการแทรกซึมของน้ำฝนลงสู่ชั้นดิน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ความเป็นไปได้ที่น้ำจะท่วมมีมากขึ้น ในพื้นที่ที่กล่าวมานั้นเป็นพื้นที่แห้งแล้งผิดปกติก่อนที่จะเกิดพายุ ซึ่งดินที่แห้งแล้งจะมีความลาดชันมากกว่าที่จะทำให้ดินไหลออก หากเปรียบดินในรัฐเท็กซัสเป็นเสมือนฟองน้ำ จะเปรียบได้กับฟองน้ำที่กำลังรอให้แห้งจะใช้เวลาสักระยะ ก่อนที่จะคลายตัวและดูดซับน้ำอีกครั้ง ในขณะที่ฟองน้ำที่อิ่มตัว จะต้องการน้ำอีกเพียงเล็กน้อย

นักวิทยาศาสตร์ของ SMAP ชื่อ Simon Yueh กล่าวว่าเนื่องจากตอนนี้น้ำท่วมบางส่วนของรัฐเท็กซัส จึงจะต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อให้ดินแห้ง หากดินยังคงอิ่มตัวไปด้วยน้ำ โอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมจะสูงขึ้นถ้ามีพายุอื่น เกิดขึ้นอีก เราได้แต่หวังว่าจะไม่มีพายุลูกใด ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า

 

ที่มาบทความ : บทความโดย Mike Carlowicz, องค์การนาซา   บันทึก : เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2560   รูปภาพโดย :Joshua Stevens
สืบค้นจาก : https://earthobservatory.nasa.gov/IOTD/view.php?id=90864&eocn=home&eoci=iotd_grid

Copyright © 2018 LEARN : อาณาจักรภูมิสารสนเทศ อาณาเขตแห่งการเรียนรู้

LEARN