รู้ไหมว่า โลกของเรามี “น้ำ” ที่อยู่ในมหาสุมทร ทะเล และอ่าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็น “น้ำเค็ม” จำนวน 97{8645ed30ebfee2716765f004cf3f74a8c4ef5e59d5d4d4ef1cf40763c4bdb1fe} ของน้ำทั้งหมดบนโลก ส่วนน้ำที่เหลืออีกเพียง 3{8645ed30ebfee2716765f004cf3f74a8c4ef5e59d5d4d4ef1cf40763c4bdb1fe} ทั้งโลกที่เป็น “น้ำจืด”
โดยใน 3{8645ed30ebfee2716765f004cf3f74a8c4ef5e59d5d4d4ef1cf40763c4bdb1fe} ดังกล่าว เมื่อเทียบเป็น 100{8645ed30ebfee2716765f004cf3f74a8c4ef5e59d5d4d4ef1cf40763c4bdb1fe} ของน้ำจืดทั้งหมดบนโลก พบว่ามีน้ำอยู่บนพื้นโลก แบ่งเป็นน้ำใต้ดิน 30.1{8645ed30ebfee2716765f004cf3f74a8c4ef5e59d5d4d4ef1cf40763c4bdb1fe} เป็นธารน้ำแข็ง ภูเขาน้ำแข็ง 68.7{8645ed30ebfee2716765f004cf3f74a8c4ef5e59d5d4d4ef1cf40763c4bdb1fe} ในแม่น้ำ ลำธาร 0.3{8645ed30ebfee2716765f004cf3f74a8c4ef5e59d5d4d4ef1cf40763c4bdb1fe} และแหล่งอื่นๆ 0.9{8645ed30ebfee2716765f004cf3f74a8c4ef5e59d5d4d4ef1cf40763c4bdb1fe} สรุปแล้วมีน้ำจืดเพียงประมาณ 1{8645ed30ebfee2716765f004cf3f74a8c4ef5e59d5d4d4ef1cf40763c4bdb1fe} ให้เราได้ใช้กิน ดื่ม อาบ ปลูกพืชผัก ซักผ้า ล้างรถ ผลิตพลังงานไฟฟ้า เพราะฉนั้นน้ำจึงจัดว่าเป็นทรัพยากรที่แสนจะหายากและมีค่าจริงๆ