4 ขั้นตอนในการสร้างแบบจำลอง 3 มิติอย่างยอดเยี่ยมด้วยโดรน

เจฟฟ์ ฟอสเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ แบ่งปันแนวทางสร้างสรรค์ผลงานที่ดีที่สุดของเขา
เราพบว่ากระแสของตลาดโดรนเชิงพาณิชย์มีผู้คนจำนวนมาก (ร้อยละ 30 ของผู้ใช้งาน) เลือกใช้โดรนในการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ ซึ่งเป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างแบบจำลองเหล่านั้นด้วยโดรนดีพลอย และในปัจจุบันแผนที่ทุกแผ่นล้วนมีมุมมองแบบ 3 มิติอยู่แล้ว แต่การที่จะได้มาซึ่งแบบจำลองคุณภาพสูงและดูดีในทุกมุมทุกองศาจำเป็นต้องเพิ่มรายละเอียดในการสร้างเข้าไปอีกเล็กน้อย
เพื่อช่วยให้ท่านได้รู้จักวิธีการสร้างแบบจำลอง 3 มิติที่ดีขึ้น เราจึงได้พูดคุยและสอบถามเคล็ดลับและ เกร็ดความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ
เจฟฟ์ ฟอสเตอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง ซาวด์ วิชั่น มีเดีย (Sound Visions Media) และผู้อำนวยการบรรณาธิการของ โดรน โคลิชั่น (Drone Coalition) ซึ่งมีความคุ้นเคยกับแบบจำลอง 3 มิติเป็นอย่างดีทั้งในการผลิต สร้างภาพแบบจำลอง และ ภาพเคลื่อนไหวตั้งแต่ต้นยุค 90 ทั้งยังเขียนหนังสือกว่า 10 เล่มที่มีความเกี่ยวข้องกับหัวข้อเหล่านี้ และในปี 2012 เจฟฟ์ได้ทำงานร่วมกับโปร วิดิโอ (Pro Video) ในการเขียนบทความเกี่ยวกับกล้อง โกโปร(GoPro) และเมื่อเขาได้รับการติดต่อจากดีเจไอ(DJI)ให้รีวิวโดรนรุ่นใหม่ของบริษัท เจฟฟ์ก็ได้นำ โดรนนั้นมาใช้และค้นพบว่านวัตกรรมนี้จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างของวงการนี้ไปเลย
ในการผลิตแบบจำลอง 3 มิติด้วยโดรนครั้งแรกของเจฟฟ์ เขาได้เลือกใช้ซอฟท์แวร์สำเร็จรูปในการประมวลผลของภาพที่ได้จนกระทั่งเขาได้ลองใช้งานโดรนดีพลอย

“มันทำงานได้อย่างรวดเร็วและได้ภาพที่ชัดเจนมาก ตัวโดรนรวมไปถึงความสามารถในการถ่ายทอดให้ผู้คนได้รับชมผ่านลิ้งคือปรากฏการณ์ดีๆนี่เอง” เจฟฟ์ ฟอสเตอร์กล่าว

ในปัจจุบันเจฟฟ์เลือกใช้โดรนรุ่นดีเจไออินสไปร์ 1 ติดกล้อง X3 และ X5 รวมไปถึงโดรนรุ่นดีเจไอ แฟนธ่อม 3 ซึ่งในบทความนี้เจฟฟ์จะอธิบายถึงวิธีการสร้างแบบจำลอง 3 มิติทีละขั้นตอน โดยเขาจะใช้ โดรนรุ่นแฟนธ่อม 3 โปรเฟสชั่นแนลในการถ่ายแบบจำลองของฐานทัพทหารเก่าบนเกาะเทรเชอร์ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองซานฟรานซิสโก

 

ขั้นตอนที่ 1 : เลือกเวลาทำการบิน

เจฟฟ์ได้อธิบายว่าหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการใช้โดรนสร้างสรรค์แบบจำลอง 3 มิติ คือการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขึ้นบิน โดยนอกจากจะต้องหลีกเลี่ยงช่วงที่ลมแรงหรือมีฝนตกแล้วนั้น ยังจำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องการเลือกเวลาที่มีเเสงที่ดีอีกด้วย

“สำหรับวันที่ท้องฟ้ามีเมฆมากนั่นคือวันที่ดีที่สุดเพราะจะทำให้ผลงานที่ได้มีเพียงเงาจางๆติดมา” เจฟฟ์กล่าว “ผมมักเลือกใช้ช่วงเวลาประมาณบ่ายๆเพื่อให้มีเงาติดออกมาน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าโอกาสที่เราจะสามารถเลือกได้ไม่ได้มีมากนัก”

ช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของวันคือช่วงที่เช้าเกินไปหรือเย็นเกินไปเพราะนั่นคือช่วงเวลาที่เงาจะทอดยาวมากที่สุด ทำให้ส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ของแบบจำลองมากที่สุดเช่นกัน
สำหรับการบินเพื่อถ่ายแบบจำลอง 3 มิติเหนือฐานทัพทหารเก่า เจฟฟ์จะเลือกบินในช่วงเวลาประมาณ 10 โมงเช้าและเป็นวันที่มีเมฆมาก

 

ขั้นตอนที่ 2 : ถ่ายภาพแนวตรงจากความสูงระดับต่ำที่สุด

เจฟฟ์มักจะเริ่มต้นการถ่ายทำเพื่อสร้างแบบจำลอง 3 มิติด้วยการถ่ายภาพเหนือพื้นที่ในระดับต่ำที่สุดในแนวตรงโดยใช้แอพพลิเคชั่นโดรนดีพลอยซึ่งสามารถโหลดได้ฟรีทั้งในระบบ iOS และ Android โดยเจฟฟ์จะร่างเค้าโครงพื้นที่ง่ายๆบนชั้นฐานของแผนที่ จากนั้นแอพพลิเคชั่นจะสร้างเส้นทางการบินให้เข้ากับพื้นที่ หลังจากการตรวจสอบความปลอดภัยทางการบิน โดรนก็จะบินเก็บภาพพื้นที่ด้านล่างตามเส้นทางที่สร้างไว้ และลงจอดโดยอัตโนมัติ

“ผมใช้โดรนกับแอพพลิเคชั่นอื่นมา 2-3 ปีซึ่งสร้างความกังวลให้ผมไม่น้อยเพราะว่าแอพพลิเคชั่นเหล่านั้นมักจะไม่ให้ผลตามที่ต้องการ ต่างจากโดรนดีพลอยที่ปฏิบัติงานได้ยอดเยี่ยม ระบบนี้เป็นปรากฏการณ์จริงๆ” — เจฟฟ์ ฟอสเตอร์

 

ขั้นตอนที่ 3 : บินโดรนเป็นวงรอบโครงสร้างเพื่อเก็บภาพแนวเฉียง

หากคุณต้องการสร้างแบบจำลอง 3 มิติของพื้นที่ราบเรียบ การถ่ายทำจากด้านบนเหนือหัวแนวตรงก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตามถ้าคุณต้องการสร้างโมเดลของโครงสร้างหรือก้อนหินที่มีความสูงชัน ความลึก ความเว้าโค้งลาดเอียง ภาพแนวตรงจะไม่สามารถให้รายละเอียดด้านข้างได้ ด้วยเหตุนี้เองเจฟฟ์จึงแนะนำให้บินเป็นวงกลมเพิ่ม 2 รอบเพื่อเก็บรายละเอียดโดยรอบและทำให้แบบจำลองที่จะสร้างขึ้นมามีคุณภาพมากขึ้น

“การบังคับโดรนให้บินเป็นวงกลมเพื่อเก็บภาพโดยรอบ เพิ่มจากภาพที่ได้จากการบินอัตโนมัติจะช่วยให้ได้ผลงานที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก” — เจฟฟ์ ฟอสเตอร์

แบบจำลอง 3 มิติจากภาพถ่ายมุมสูงแนวตรงเพียงอย่างเดียว และแบบจำลอง 3 มิติจากการถ่ายภาพแนวเฉียงเพิ่มเติม

จะเห็นได้ว่าการเพิ่มภาพที่ได้จากการถ่ายมุมสูงแนวเฉียงเข้าไปจะทำให้ได้โมเดลที่มีคุณภาพดีขึ้นอย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับรูปทางซ้ายด้านบน

เจฟฟ์เก็บภาพแนวเฉียงโดยการเอียงกล้อง 45 องศาและบังคับโดรนให้บินรอบโครงสร้างที่จะถ่ายในระดับความสูงเท่ากับการถ่ายแนวตรงและมีรัศมีการบินคงที่ “จากนั้นผมจะลดระดับความสูงที่ใช้ในการบินลงครึ่งหนึ่งและปรับองศาของกล้องให้ใกล้เคียงกับ 90 องศาแล้วถ่ายอีกรอบ” เจฟฟ์กล่าว

ในขณะที่เก็บภาพแนวเฉียงอยู่ต้องระวังไม่ได้ถ่ายติดเส้นขอบฟ้าด้วย ในการภาพแนวเฉียงทั้ง 2 ระยะเจฟฟ์จะกดชัตเตอร์ถ่ายภาพด้วยตัวเองในตอนแรก หลังจากทดลองจนได้มุมที่ต้องการแล้วก็จะตั้งค่าในแอพพลิเคชั่นให้ถ่ายภาพโดยอัตโนมัติทุกๆ 3-5 วินาที

ในบางกรณีที่โครงสร้างมีความสลับซับซ้อนมากหรือมีส่วนที่เป็นชั้นลอย เช่น บ้านที่มีชายคายื่นออกมา เจฟฟ์จะถ่ายภาพแนวเฉียงเพิ่มอีกชุดในระดับที่ต่ำลงมาอีก ซึ่งอาจจะมีระดับความสูงที่ต่ำจนสามารถถ่ายทำโดยไม่ต้องใช้โดรนช่วยและปรับมุมกล้องเป็น 90 องศา

ไดอะแกรมด้านบนแสดงให้เห็นถึงการใช้โดรนถ่ายภาพของฐานทัพทหารเก่าทั้ง 4 รูปแบบ โดยการถ่ายครั้งนี้เจฟฟ์ใช้การเก็บแบบแนวเฉียงถึง 3 ระดับคือสูง 150 ฟุต เอียง 45 องศา สูง 70 ฟุต เอียงประมาณ 80 องศา และการเก็บภาพรวมโดยใช้ความสูง 230 ฟุต เอียง 30 องศา ซึ่งระยะเวลาที่ใช้ในการถ่ายทำทั้งแนวตรงและแนวเฉียงรวม 4 แบบใช้ไปประมาณ 45 นาทีครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 10 เอเคอร์

ตัวอย่างภาพ 3 จาก 4 ระดับที่เจฟฟ์ถ่าย

 

ขั้นตอนที่ 4 : เปลี่ยนภาพถ่ายให้เป็นแบบจำลอง 3 มิติ

หลังจากเก็บภาพเสร็จแล้วเจฟฟ์ได้ทำการอัพโหลดภาพ 504 ภาพที่ได้จากการบินทั้ง 4 แบบไปยังโดรนดีพลอยและเลือกกระบวนการเปลี่ยนภาพให้เป็นแบบจำลอง หลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงแอพพลิเคชั่นโดรนดีพลอยซึ่งทำการประมวลผลบนคลาวด์ก็จะทำงานเสร็จและได้ผลงานเป็นแบบจำลอง 3 มิติที่สมบูรณ์

ภาพจากแอพพลิเคชั่นโดรนดีพลอยมุมนี้แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมดที่ได้จากการถ่ายภาพของการขึ้นบินทั้ง 4 แบบโดยภาพถ่ายแนวตรงจะใช้เส้นสีเหลือง ส่วนภาพถ่ายแนวเฉียงจะใช้รอยประสีชมพู

 

แบบจำลอง 3 มิติที่เสร็จสมบูรณ์
ด้านล่างคือโมเดลที่เสร็จสมบูรณ์แล้วทั้งแบบ 3 มิติและวิดีโอ


รับชมวิดีโอ 3 มิติของฐานทัพทหารเก่าบนเกาะเทรเชอร์

ความผิดพลาดที่มักจะเกิดขึ้น

เจฟฟ์กล่าวถึงหนึ่งในข้อผิดพลาดที่มักจะพบจากผู้ใช้งานโดรน “พวกเขาไม่มีความคงเส้นคงวาในการถ่ายทำเนื่องจากมันต้องใช้เวลาค่อนข้างมากกว่าจะบินโดรนได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่ผู้ใช้งานจำนวนมากไม่สามารถอดทนทำได้นานเพียงพอ” เจฟฟ์ยังกล่าวต่ออีกว่า “ผู้ใช้งานโดรนมือใหม่มักถ่ายภาพโดยมีความทับซ้อนระหว่างภาพไม่เพียงพอและการบินของโดรนจะมีรัศมีไม่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดเมื่อพวกเขาบินด้วยตนเองโดยไม่ใช้ระบบอัตโนมัติ”

เจฟฟ์ยังบอกถึงวิธีของเขาที่ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่กล่าวมาข้างต้นว่า “ต้องฝึกฝน ฝึกฝน และฝึกฝน” เจฟฟ์แนะนำเพิ่มเติมว่าในการฝึกควบคุมโดรนควรเลือกพื้นที่เปิดแบบกว้างหรือบินเหนือแนวต้นไม้ และในส่วนของการทับซ้อนระหว่างภาพให้เพียงพอสามารถแก้ได้โดยถ่ายภาพให้ถี่ยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้มีระยะห่างระหว่างภาพนานเกินไป และควรถ่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ของโครงสร้างทั้งหมด

 

แอพพลิเคชั่นรองรับการสร้างแบบจำลอง 3 มิติขององค์กรธุรกิจ

ผู้ที่ชื่นชอบโดรนไม่ได้เป็นคนกลุ่มเดียวที่ใช้โดรนในการทำแบบจำลอง 3 มิติ แต่รวมไปถึงอุตสาหกรรมต่างๆรวมถึงอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ใช้โดรนสร้างโมเดล 3 มิติเพื่อประเมินภูมิประเทศ ระบุการเคลื่อนย้ายดินที่จำเป็น และใช้ในการวางแผนการทำงาน นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมอื่นๆใช้โดรนสร้างแบบจำลอง 3 มิติเพื่อช่วยในการทำงาน เช่น อุตสาหกรรมเหมืองแร่ และวงการการสำรวจ เป็นต้น

เจฟฟ์ตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับสมรรถภาพการทำงานของโมเดล 3 มิติที่สร้างโดยโดรนซึ่งถือเป็นการทำงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เขามีประสบการณ์การใช้โดรนเพื่อวัดและสร้างแบบจำลองของคลื่นยาวตลอดชายหาด “คุณจะพบมุมมองของแบบจำลอง 3 มิติที่แตกต่างออกไป ราวกับเห็นการพัฒนาจากพื้นที่ชนบทสู่การเป็นเมือง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าอย่างมาก” เจฟฟ์กล่าว

 

แนวทางศึกษาเพิ่มเติม

หากต้องการที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างแบบจำลอง 3 มิติด้วยโดรนดีพลอย คุณสามารถเข้าไปได้ที่ 3D modeling with drones ในหน้าความช่วยเหลือบนเว็บไซต์ของเรา และยังมีโดรนโคเอลิชั่น (Drone Coalition) และ ฟลิต เทสต์ (Flite Test) ที่มีการสอนวิธีสร้างโมเดล 3 มิติด้วยโดรนดีพลอย นอกจากนี้หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างแบบจำลอง 3 มิติให้ออกมาสมบูรณ์แบบ คุณสามารถสอบถามจากผู้ใช้โดรนคนอื่นๆได้ผ่านทางคอมมิวนิตี้ ฟอรั่ม(community forum)

 

สร้างแบบจำลอง 3 มิติฟรีได้ด้วยแอพพลิเคชั่นโดรนดีพลอย
เป็นเรื่องง่ายมากในการสร้างโมเดล 3 มิติด้วยโดรนดีพลอย เพียงแค่ลงทะเบียนหรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นของเราผ่านทาง แอพสโตร์ หรือ กูเกิ้ล เพลย์


ที่มาบทความ : Frank Schroth บันทึก : เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2559
สืบค้นจาก : https://dronelife.com/2016/03/31/4-steps-making-3d-model-drone/

Copyright © 2018 LEARN : อาณาจักรภูมิสารสนเทศ อาณาเขตแห่งการเรียนรู้

404 Not Found

404

Not Found

The resource requested could not be found on this server!


Proudly powered by LiteSpeed Web Server

Please be advised that LiteSpeed Technologies Inc. is not a web hosting company and, as such, has no control over content found on this site.

LEARN