27 ข้อแตกต่างระหว่าง ArcGIS และ QGIS การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของซอฟท์แวร์ GIS ในประวัติศาสตร์ GIS ตอนที่ 3

ArcGISvsQGIS-678x322-2

เรามาดูกันต่อข้อที่ 8-10 ในตอนที่ 3 นี้


8. การใช้งาน plugin

คุณกำลังคิดว่าเรากำลังพูดถึง QGIS อยู่ใช่หรือไม่?

เราทุกคนรู้ว่าคุณสามารถปรับการวิเคราะห์ด้วยปลั๊กอินซึ่ง QGIS มีปลั๊กอินจำนวนมากกว่า 300 ตัวในการช่วยแก้ปัญหาทุกวัน

QGIS-Plugins-Repository

แต่คุณอาจจะไม่รู้ว่า ArcGIS มีปลั๊กอินเช่นเดียวกัน ซึ่งสามารถให้คำตอบได้กับทุกปัญหาของ GIS

การรวบรวมฟรีด้วย R stats (สิ่งแวดล้อมการสร้างแบบจำลองเชิงพื้นที่) ตัวเลือกเพิ่มเติมของ Marine Tool, NetCDF ,ET GeoWizards, ArcGIS Patch Analyst ด้วยเวอร์ชั่นล่าสุดใน app store ของ Esri — ArcGIS Marketplace  จึงมีปลั๊กอินใหม่ ๆ ออกมาให้ใช้อย่างมากมาย

ArcGIS-Solutions

ในตลาดมีโปรแกรมให้คุณเลือกทั้งแบบเสียเงินและให้ใช้ฟรีที่จะช่วยแก้ปัญหา spatial ให้คุณ  โปรแกรม Esri ช่วยคุณได้ทุกเรื่องไปจนถึงการจัดสวน คุณต้องเข้าใจความสามารถในการเติบโตและเอกลักษณ์ของ Esri เพื่อให้มันช่วยแก้ปัญหา geopspatial ของคุณ


9.กระบวนการประมวลผลแรสเตอร์ทั้งใน QGIS และ ArcGIS

Spatial-Analyst-ArcGIS-3ชุดการวิเคราะห์ข้อมูลทางพื้นที่คือที่สุดของการจัดการข้อมูลแรสเตอร์

แม้ว่าจะเป็นการคำนวณธรรมดา (แผนที่พิชคณิต หรือ ชุดเครื่องมือที่ติดเงื่อนไข)  สถิติ (คำนวณหลายตัวแปร, พื้นที่ใกล้เคียง หรือชุดเครื่องมือแบ่งเขตข้อมูล) หรือ สร้างค่าพื้นผิว (การแก้ไขพื้นผิว , ความหนาแน่น หรือ การซ้อนทับของพื้นผิว) ArcGIS ที่มีเครื่องมือพื้นฐานด้วยแรสเตอร์นั่นเชื่อถือได้ เครื่องมือวิเคราะห์เชิงพื้นที่ยังรองรับเครื่องมือพิเศษสำหรับน้ำใต้บาดาล อุทกวิทยา ต้นทุนพื้นผิว และรังสีดวงอาทิตย์ และยังมีตัวเลือกอื่น ๆ คือให้ฟิลเตอร์ (จัดกลุ่มใหม่ หรือ เครื่องมือกรองข้อมูล) หรือเครื่องมือที่ทำข้อมูลให้ง่าย

เครื่องมือคำนวณแรสเตอร์ใน  QGIS คำนวณแผนที่เชิงพีชคณิตโดยใช้การทำงานการคำนวณและตรีโกณมิติได้น้อยกว่า QGIS มีวิธีการที่หลากหลายในการปรับปรุง Kriging แบบธรรมดาและอเนกประสงค์เป็นเครื่องมือที่แยกออกมาใน QGIS แต่ใน ArcGIS มันเป็นปุ่มวิทยุที่อยู่ภายใต้เครื่องมือ Kriging เครื่องมือ GRASS r.cost นั้นสำหรับพื้นผิวต้นทุน QGIS นั้นชนะในเรื่องของตัวเลือกการกรองเพิ่มเติม ยังมีเครื่องมือในการให้น้ำใต้ดินและรังสีดวงอาทิตย์ใน QGIS แต่ไม่เหมือนกับ ArcGIS

เราสามารถอธิบายได้ไม่รู้จบ แต่กลัวคุณจะเบื่อเสียก่อน การชี้ผู้ชนะในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยากมาก ทั้งสองค่ายสามารถทำได้ดีเท่า ๆ กัน


10.กล่องเครื่องมือคำนวนสถิติทางภูมิศาสตร์ ArcGIS นั้นเป็นผู้ชนะ เนื่องจากเป็นเครื่องมือสอนสถิติ

คุณเคยลองประกอบเฟอร์นิเจอร์โดยไม่ดูคู่มือหรือไม่ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยใช่หรือไม่?

เมื่อคุณเริ่มใช้เครื่องมือใน ArcGIS คุณจะมีคำอธิบายต่าง ๆ ให้สามารถใช้งานได้อย่างชัดเจนแบบที่เด็ก ๆ ยังสามารถเข้าใจได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณใช้ Moran’s I รายงานจะแสดงผลพร้อมคำอธิบาย คุณจะรู้ได้ทันทีว่าข้อมูลของคุณเชื่อมโยงหรือไม่

สำหรับ GQIS คุณจำเป็นต้องมีความเข้าใจเครื่องมือต่าง ๆ ก่อน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแย่มากเท่าไหร่ เพียงแต่มันจะไม่ง่ายแบบ ArcGIS 10 เท่านั้น

เครื่องมือสำรวจใน ArcGIS ได้รับการออกแบบมาอย่างดี ผลจากการประมวลทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงสถิติกับฐานข้อมูลซึ่งทำให้ประหยัดเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูล

Group Stats Plugin ใน QGIS ได้รับการออกแบบมาอย่างประณีต เป็นตาราง pivot ที่ปรับเปลี่ยนได้มาพร้อมกับ QGIS คอลัมน์เป็นตัวกำหนดประเภทสถิติ (ค่าเฉลี่ย, จำนวนที่ต่ำที่สุด, ค่าความแปรปรวน, เป็นต้น) ข้อมูลในแถวเป็นประเภทข้อมูลต่าง ๆ เช่น ชื่อสถานที่หรือ สันปันน้ำ ใส่ข้อมูลและกดคำนวณ คุณจะได้ตาราง pivot อย่างสวยงาม ทำให้ ArcGIS เป็นผู้ชนะที่สามารถทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายได้

GroupStats-QGIS-2

เรียนรู้เพิ่มเติมถึงวิธีการเพิ่มสภาพแวดล้อมแบบจำลองทางภูมิศาสตร์ เพื่อนำค่าสถิติ R ไปใช้ใน ArcGIS

 

ที่มาบทความ : บทความโดยเว็บไซต์ GisGeography บันทึก : เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560
สืบค้นจาก : http://gisgeography.com/qgis-arcgis-differences/

Copyright © 2018 LEARN : อาณาจักรภูมิสารสนเทศ อาณาเขตแห่งการเรียนรู้

LEARN

404 Not Found

404

Not Found

The resource requested could not be found on this server!


Proudly powered by LiteSpeed Web Server

Please be advised that LiteSpeed Technologies Inc. is not a web hosting company and, as such, has no control over content found on this site.