บรรดาผู้ที่ฝันกับการได้รับบรรจุภัณฑ์อเมซอน, ยาตามใบสั่งแพทย์หรือแม้กระทั่งส่งเบียร์ให้ถึงประตูบ้านผ่านทางโดรนอาจเป็นจริงได้เร็วเกินคาด
โครงการนำร่องนักบินระบบอากาศยานไร้คนขับ (UAS) ได้เริ่มต้นพัฒนาอุตสาหกรรมโดรนในสหรัฐอเมริกาขึ้นแล้ว จุดประสงค์เพื่อ “เสริมความปลอดภัยให้กับสาธารณะชนอเมริกัน” เพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตของอุตสาหกรรมอเมริกันและสร้างงานใหม่ให้กับคนอเมริกันนับหมื่นอย่าง
ธุรกิจทางอากาศอย่างเช่นโดรนขนส่งและภาพถ่ายทางอากาศพร้อมเปิดตัว ประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับระบบแบบบูรณาการขนส่งทางอากาศยานไร้คนขับจะสร้างเงินโดยประมาณ 82พันล้านเหรียญสหรัฐและสร้างงานได้ถึงหนึ่งแสนอย่างในปี ค.ศ. 2025 ในขณะที่ภาพทางอากาศคาดว่าจะสร้างเงินได้ถึง 3.3พันล้านเหรียญในปีค.ศ. 2023
แรงผลักดันการเติบโตดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งใหม่และกำลังขยายพื้นที่การใช้งาน เทคโนโลยีทางอากาศกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทุกชนิดด้วยกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายและเข้าถึงลักษะโครงสร้างและสถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งไม่สามารถเข้าถึงได้ นี่คืออุตสาหกรรม 5 ชนิดที่โดรนจะพลิกโฉม, เทคโนโลยีช่วยชีวิต
บรรเทาภัยพิบัติและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
เพียงสองสามวันหลังจากพายุเฮอรีเคน Harvey พิกัดที่มีอยู่ ได้จับภาพการทำลายล้างที่ถูกทิ้งไว้โดยภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อตอบสนองการช่วยเหลือฉุกเฉินและกู้ภัย, การบริหารจัดการน้ำท่วม และสำนักจัดการภาวะฉุกเฉินกลาง FEMA ที่จัดสรรเงินทุน ในช่วงภาวะฉุกเฉิน ภาพที่ถ่ายได้สามารถใช้เพื่อนำไปสู่การตอบสนองเป็นอันดับแรกและหมายเลข 911 หน่วยฉุกเฉินก็วิเคราะห์สภาพถนนได้เช่นเดียวกัน สำนักจัดการภาวะฉุกเฉินและหน่วยงานบรรเทาภัยพิบัติยังสามารถจัดสรรเงินบนพื้นฐานของการตรวจสอบขอบเขตความหายนะในพื้นที่ เครื่องบินที่ทำจากกระดาษแข็งมีความสามารถขนพัสดุน้ำหนักได้มากกว่า 2 ปอนด์อย่างเช่น เลือดและวัคซีนให้กับผู้ที่ต้องการใช้ในขณะนั้น
โดรนแบบย่อยสลายได้สามารถสนับสนุนเครื่องกระป๋อง,ของเหลวทางการแพทย์ที่มีความละเอียดอ่อน, แบตเตอรี่และสิ่งของช่วยชีวิตอื่นๆและขยายการใช้งานสิ่งเหล่านี้ไปยังพื้นที่ขนาดของรัฐแคลิฟอร์เนียได้สบาย บัดนี้อุปกรณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์จึงถูกส่งไปยังพื้นที่ชนบถที่ไม่มีถนนหรือภูมิภาคที่แสดงผลอันไม่สามารถเข้าถึงได้จากภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือในภาวะสงคราม
ภาพถ่ายทางอากาศที่มีความละเอียดสูงอย่างเช่น ภาพถ่ายก่อนและหลังพายุเฮอริเคน Irma ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยเหลือในการตอบสนองภาวะฉุกเฉินและกู้ภัย FEMA จัดสรรเงินทุนแในช่วงภาวะฉุกเฉินและการบริหารจัดการน้ำท่วมเครดิตภาพ: Nearmap
การขนส่งสาธารณะ
หน่วยงานขนส่งท้องถิ่นอย่างเช่น Orange County Transportation Authority และเขตปกครองขนส่งในกรุงวอชิงตัน ดีซี ก็ใช้ภาพถ่ายทางอากาศเป็นแผนที่ฐาน – ชุดฐานข้อมูลของ GIS และภาพซึ่งตั้งค่ารูปทรงพื้นฐานและการวางแนวทางของแผนที่
ภาพถ่ายทางอากาศได้รวมเอาโปรแกรมของบุคคลที่สามไว้อย่างเช่น Autodesk และ Esri อันช่วยควบคุมการบริหารจัดการแผนงาน, วางแผนและวิเคราะห์ไซต์งาน และปรับข้อมูลตรวจสอบข้อมูลการก่อสร้าง (ตรอก, ถนนและทางเดินเท้าให้เป็นปัจจุบัน)
การทำแผนที่มหาสมุทร
เป็นการตระหนักว่ามหาสมุทรมีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของมนุษย์ – แหล่งข้อมูล 97 เปอร์เซ็นต์ของน้ำในโลกผลิตแก๊สออกซิเจนมากกว่าครึ่งหนึ่งในชั้นบรรยากาศ – จึงเป็นเรื่องแปลกที่ 85 เปอร์เซ็นต์ของพื้นผิวมหาสมุทรยังคงไม่ปรากฏอยู่ในแผนที่และยังมิได้สำรวจ
ภาพถ่ายทางอากาศได้แสดงบทบาทเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมต่อช่องว่างนั้น ภาพความคมชัดสูงจากระบบก้องติดอากาศยานสามารถจับภาพและดึงเอาพื้นผิวข้อมูลปัจจุบันขึ้นมาได้และเปลี่ยนคลื่นวัดความถี่สูงด้วย Doppler วิธีนี้คุ้มค่า คุ้มเวลาและสามารถปรับขนาดได้ มันสามารถครอบคลุมพื้นผิวขนาดใหญ่ได้
กระบวนการนี้เข้าไปเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนํ้ามันและแก๊ส การใช้ฐานข้อมูลกลั่นกรองจากการจับภาพถ่ายทางอากาศ บริษัทน้ำมันต่างๆจึงสามารถวางแผนและดำเนินการสำรวจนอกชายฝั่ง, ดำเนินการขุดเจาะในน่านน้ำลึก,เสริมการตอบสนองต่อการรั่วไหลของน้ำมันและบรรเทา ในพันธกิจช่วยเหลือการค้นหาและกู้ภัย
การเครื่องกลเรียนรู้และ AI ปัญญาประดิษฐ์
การรวมกันของเครื่องกลเรียนรู้และปัญญาประดิษฐ์กำลังเปลี่ยนแปลงวิถีทางธุรกิจประกันภัยและตลาดอสังหาริมทรัพย์ตอบโจทย์ได้ในระดับหนึ่ง ณ ตอนนี้เนื่องสามารถเก็บภาพความละเอียดสูงมาก ผู้ประกันภัยจึงสามารถรวบรวมข้อมูลอย่างง่ายดายอย่างเที่ยงตรงแม่นยำที่สุด คุณสมบัติระดับการตรวจสอบของฐานข้อมูลช่วยให้ผู้ประเมินระบุถึงคุณลักษณะได้อย่างง่ายดายและความเสี่ยงของทรัพย์สินที่อาจเกิดขึ้นอย่างเช่น สระว่ายน้ำและระยะห่างระหว่างต้นไม้กับอาคาร
ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Cape Analytics ได้พัฒนาชั้นฐานการประมวลผลแบบคลาวน์เบสซึ่งทำให้เกิดกระแสข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงและความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั่วสหรัฐอเมริกา
ความแม่นยำด้านการเกษตร
ความแม่นยำด้านการเกษตรเป็นความคิดการบริหารจัดการการทำการเกษตรอันมีพื้นฐานอยู่กับการใช้ในเรื่องของเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลผลิตพืชผลและมีผลกำไรในขณะที่ลดจำนวนองค์ประกอบอันจำเป็นแบบดั้งเดิมสำหรับการเพาะปลูกพืชผลเช่น น้ำ, ปุ๋ย, สารกำจัดวัชพืช และยาฆ่าแมลง ภาพถ่ายทางอากาศจากโดรนเป็นสิ่งจำเป็น ภาพถ่ายทางอากาศช่วยให้ชาวนาทำ งานมีทักษะได้อย่างชาญฉลาดอย่างเช่นการสำรวจทรัพย์สินทางการเกษตรทั้งหมด, การจัดการเรื่องดินและการสุ่มตัวอย่างชลประทาน, การกำหนดตารางการใช้สารกำจัดศัตรูพืช, และหาข้อผิดพลาดเครื่องจักรกล
บริษัทใหญ่ต่างๆอย่างเช่น Monsanto, John Deere, Bayer, Dow และ DuPont ลงทุนในเทคโนโลยีความแม่นยำด้านการเกษตรอย่างเช่น ซอฟต์แวร์, เซ็นเซอร์ และฐานข้อมูลทางอากาศ
แหล่งน้ำในชนบถใช้ภาพถ่ายทางอากาศในการตรวจพืชผลทางการเกษตรและส่งน้ำและวิเคราะห์แง่มุมในการประหยัดน้ำ GIS และภาพถ่ายทางอากาศถูกใช้เพื่อสร้างแบบและเครื่องมือสำหรับ Coachella Valley Economic Partnership เพื่อตรวจสอบและประเมินชั้นหินอุ้มน้ำใน Coachella Valley แผนที่เหล่านี้ถูกใช้เพื่อประเมินการแทรกซึมของน้ำเช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงการจำแนกผืนดินที่ครอบคลุมและความลึกน้ำที่พื้นผิว, ภาพที่เห็นทั้งหมดเป็นภาพสองและสามมิติเพื่อหาแนวโน้มที่เป็นไปได้
ตามที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางอากาศที่ครบถ้วนสมบูรณ์ จะเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ท้องฟ้าที่ครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง, จากการตอบสนองในภาวะฉุกเฉินสู่การขนส่งสาธารณะ, การค้นพบทางมหาสมุทรสู่การเกษตรขนาดใหญ่และอสังหาริมทรัพย์ แน่นอนว่า คุณจะยังคงได้รับการจัดส่งพัสดุของคุณ, แต่ท้องฟ้าก็ยังมีที่ให้ความเป็นไปได้อื่นๆ
ที่มาบทความ : Amy Osmond Cook, นักเขียนรับเชิญ, เวปไซต์ entrepreneur บันทึก : เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561
สืบค้นจาก : https://www.entrepreneur.com/article/306599