27 ข้อแตกต่างระหว่าง ArcGIS และ QGIS การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของซอฟท์แวร์ GIS ในประวัติศาสตร์ GIS ตอนที่ 7

ArcGISvsQGIS-678x322-6

เรามาดูกันต่อข้อที่ 22-24 ในตอนที่ 7 นี้


22.การสร้างการปรับแต่งอย่างละเอียดด้วยเครื่องมือแก้ไขขั้นสูงของ ArcMap

การปรับแต่ง ArcGIS และ QGIS จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่เครื่องมือปรับแต่งไม่ได้ถูกสร้างมาให้เหมือนกันทุกอย่างอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น การคลิกขวาเพิ่งจบการใช้งานภาพวาดใน QGIS แต่ใน ArcGISใช้การกดเลือกซ้ำกัน 2 ครั้ง คุณจะชอบการจบการใช้งานด้วยการกดเลือกด้วยปุ่มทางขวาของเมาส์มากกว่าเพราะการกดเลือกซ้ำกัน 2 ครั้ง อาจทำให้กดพลาดตรงมุมได้

QGIS-Editor-Toolbar-2

QGIS รองรับเครื่องมือปรับแต่งเช่น การเปลี่ยนรูปร่าง การแบ่งภาพ และการติดตาม (ด้วยการติดตามอัตโนมัติ) การลบวงแหวนออกจากรูปร่างและการสร้างรูปร่างโดนัทด้วยความสะดวก คุณสามารถเก็บภาพได้โดยตัวเลือก snap ทางด้าน QGIS CadTools plugin มีตัวเลือกทั้งหมด 13 ตัว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือตัวปรับแต่ง rolling back ใน QGIS  ซึ่งใน ArcMap สามารถใช้ได้จาก properties ตรงยอดของภาพวาดทุกยอดสามารถย้ายที่หรือย้ายออกได้

Editor-Toolbar

การสร้างข้อมูลใน ArcMap เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ArcGIS มีตัวเลือกให้ใช้ปรับแต่งได้มากกว่า คุณสามารถสร้างภูมิประเทศต่าง ๆ ได้โดยการตั้งค่าแบบภูมิประเทศ ตัวเลือกขั้นสูงทำให้สามารถแยกรายละเอียดภูมิประเทศ ตัดขอบ ขยายโค้งหรือแทนที่รูปทรงต่าง ๆ เครื่องมือติดตามใน ArcMap ทำให้งานทุกอย่างง่ายขึ้นเหมือนเป็นตัวช่วยจากสวรรค์


23.คุณจะพบปัญหา 99 อย่างแต่ไม่ใช่การผิดพลาดในเรื่อง topology

  • จุดทับซ้อนรูปหลายเหลี่ยมหรือไม่?
  • มีการทับซ้อนหรือไม่?
  • เส้นควรทับเขตพื้นที่อื่นหรือไม่

Sliver-150x100ผมสามารถอธิบาย topology ใน AcrGIS ได้คำเดียวคือ อัจฉริยะ นี่เป็นแถบเครื่องมืออัจฉริยะ

หากคุณกังวลเรื่องความผิดพลาดของข้อมูล GIS (มีการทับซ้อน, ช่องว่าง) ArcGIS มีการตรวจสอบที่ซับซ้อนด้วยเครื่องมือ topology ซึ่งตรวจสอบความถูกต้องของการเปลี่ยนรูปร่างด้วยข้อกำหนดมากว่า 30 ข้อซึ่งสามารถป้องกันเรื่อง topology โดยอัตโนมัติหรือปรับเอง

สามารถเริ่มสร้างข้อกำหนดเรื่อง topology ได้เมื่อข้อมูลอยู่ใน geodatabase

ArcGIS-Topology

QGIS มีข้อกำหนดเรื่อง topology ดังนี้ “ต้องมี (must contain)” “ต้องไม่มีข้อมูลซ้ำซ้อน (must not have duplicates)” “ต้องไม่มีช่องว่าง (must not have gaps)” “ต้องไม่มีรูปร่างไม่สมบูรณ์ (must not have invalid geometries)” “ต้องไม่มีรูปร่างหลายส่วน (must not have multi-part geometries)” “ต้องไม่ทับซ้อน (must not overlap)” และ “ต้องไม่ทับซ้อนกับ…(must not overlap with…)” ซึ่งทำให้สามารถตรวจสอบฐานรูปทรงเรขาคณิตตามข้อกำหนด แล้วจะแก้ไขได้ด้วยวิธีใด?

QGIS-Topology

การแก้ไข topology ใน ArcGIS เป็นแบบอินเตอร์แอคทีฟ ซึ่งสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้ทีละอย่าง ด้วยการทำงานการแก้ไข topology จึงทำให้ ArcGIS มีจุดแข็งในการแก้ไขข้อผิดพลาดได้เป็นจำนวนมากซึ่งทำให้ดีกว่าโปรแกรมอื่นทั้งหมด

อ่านเพิ่มเติม: Topology Rules in ArcGIS: How To Fix Digitizing Errors


24. การป้อนข้อมูลแบบมืออาชีพ

attribute-table-example-gis-dictionaryทั้ง QGIS และ ArcGIS เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการนำเข้าข้อมูล ซึ่งมีหลักการทำงานคล้ายกัน เมื่อสร้าง Shapefile ใน QGIS จะต้องสร้างกลุ่มข้อมูล (ข้อความ , เลขจำนวนเต็ม , เลขทศนิยม หรือวันที่)  ใน ArcGIS ต้องสร้างกลุ่มข้อมูล (จำนวนเต็ม , ข้อความ หรือ วันที่ เดี่ยวหรือคู่) ในภายหลัง นอกจากคุณใช้ ArcCatalog

เมื่อสร้างกลุ่มข้อมูลใน QGIS คุณสามารถเปลี่ยนชื่อโดยใช้ Table Manager  คุณอาจคิดว่าคุณต้องสร้างกลุ่มข้อมูลใหม่และคัดลอกเนื้อหาไปในกลุ่มข้อมูลใหม่ใน ArcGIS แต่ Alter Field (การจัดการข้อมูล) สามารถจัดการแทนคุณได้

ตามฐานข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ผู้ใช้งานสามารตั้งค่ากลุ่มข้อมูลย่อย ขอบเขต หรือค่าเริ่มต้นของการป้อนข้อมูล เมื่อผู้ใช้เริ่มใส่ข้อมูลตาราง สามารถเลือกรายการดรอปดาวน์ได้ ซึ่งทำให้ข้อมูลถูกต้องเมื่อ GIS analysts เริ่มทำงาน

Domain-ArcGIS

การเลือกโดยที่ตั้งได้รับการพัฒนาด้วยเครื่องมือการเลือกแบบอินเตอร์แอคทีฟ เมื่อเลือกแล้วก้ยังสามารถกรองข้อมูลได้อีก (เลือกจาก, เพิ่มเข้าไป, ย้ายออกจาก) ซึ่งรองรับการคำนวณ python และ VB เพื่อทำงานกับรหัสต่าง ๆ ลักษณะต่าง ๆใน ArcGIS ทำให้ไม่ต้องคอยปรับพื้นที่ส่วนคำนวณ ซึ่งทำให้ชนะคู่แข่งได้อย่างสบาย

 

ที่มาบทความ : บทความโดยเว็บไซต์ GisGeography บันทึก : เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560
สืบค้นจาก : http://gisgeography.com/qgis-arcgis-differences/

Copyright © 2018 LEARN : อาณาจักรภูมิสารสนเทศ อาณาเขตแห่งการเรียนรู้

LEARN